เทคนิคการเลือกขนาดปั๊มลมให้เหมาะกับเครื่องมือลมที่ใช้

เครื่องมือลมที่ใช้ ต้องใช้ปั๊มลมขนาดไหน? 

ปกติ การวัดความสามารถการใช้ปริมาณลมจริงๆที่ถูกปั๊มลมบีบอัดและส่งออกไปยังท่อลมหรือถังลม  มีหน่วยวัดเป็น

- ลูกบาศก์ฟุตต่อนาที (CFM or Cubic feet per minute) และ

- ลิตรต่อนาที (L/min or litre per minute)  หรือ ลูกบาศก์เมตรต่อนาที (m3/min or cubic metre per minute) เหมือนหน่วยวัดอัตราการไหลของของเหลว

               สูตรคำนวณ จึงมีดังนี้ 

               วิธีการคำนวณหาปริมาณการใช้ลม

                  1 CFM                       =        28.3L/min

                  ค่า CFM  x 28.3         =    .…………

ตัวอย่างในการใช้สูตรคำนวนการใช้งานจริง ดังนี้

ตัวอย่าง 1    การใช้ปั๊มลม 1ตัวกับเครื่องมือลมจำนวน 1ตัว

ชุดบล็อกลม KUKEN 1/2" รุ่น KW-19HP  

ปริมาณการใช้ลมเท่ากับ  14.3CFM. (ลูกบาศก์ฟุตต่อนาที)

                 = 14.3 * 28.3

                 = 404.69 L/min

ดังนั้น ปั๊มลมที่ควรเลือกใช้กับ ชุดบล็อกลม KUKEN 1/2” รุ่น KW-19HP  คือ

ปั๊มที่สามารถทำลมได้ตั้งแต่ 405 L/min ขึ้นไป

***การคำนวณควรคิดลมเพิ่มเติมอย่างน้อย 35% 

ตัวอย่าง 2    การใช้ปั๊มลม 1ตัวกับเครื่องมือลมจำนวนหลายตัว

-    เครื่องย้ำรีเวท PUMA รุ่น AT-6135 ( ปริมาณใช้ลม 0.03 CFM  >> 0.85L/min)  ใช้งาน 2 ตัว

-    ไขควงลม  PUMA รุ่น AT-4060K    ( ปริมาณใช้ลม 6 CFM  >> 170L/min)   ใช้งาน 3 ตัว

                 0.85 * 2 =  1.7  L/min

                 170 * 3 =  510  L/min

รวมปริมาณการใช้ลมทั้งหมด  510+1.7 = 512 L/min

ดังนั้น การเลือกปั๊มลมที่ควรเลือก ปั๊มที่สามารถทำลมได้ตั้งแต่ 512 L/min ขี้นไป

***การคำนวณควรคิดลมเพิ่มเติมอย่างน้อย 35%

ข้อแนะนำ ควรเลือกปั๊มลมที่มีความสามารถในการทำลมมากกว่าจำนวนที่คำนวณได้ เพื่อเป็นการป้องกันการทำงานหนักของปั๊มลม และเพื่อเป็นการยืดอายุการใช้งานของปั๊มลมเนื่องจากค่าที่คำนวณที่ได้เป็นค่าโดยประมาณ/ใกล้เคียง